หากเราพูดถึงองค์ประกอบของการสร้างบ้านสักหลังหนึ่งแน่นอนว่า เรามักจะมุ่งเน้นไปที่ตัวบ้านและบริเวณพื้นใช้สอยภายในบริเวณเป็นหลักอยู่แล้ว แต่สำหรับ ศาลพระภูมิ
ถ้าลองสังเกตบ้านแต่ละหลังรอบ ๆ ตัวเราสิ่งนี้จะปรากฏอยู่แทบทุกหลังในบ้านของทั้งเชียงใหม่เองหรืออาจจะทั่วประเทศไทยเลยก็ว่าได้ และบทความนี้จะพาเราทุกคนไปทำความรู้จักสิ่งที่เราเห็นกันจนชินตาแต่อาจจะไม่คุ้นเคยกันเท่าที่ควรศาลพระภูมิ แท้จริงแล้วมีชื่อเต็มมาจากศาลพระภูมิชัยมงคลและพระภูมิยังแปลแบบตรงตัวได้ว่า เจ้าที่ ๖(คนจีนเรียกว่า ตี่จู้เอี๊ยะ) หมายถึง เจ้าที่ผู้ดูแลแผ่นดิน ที่จะช่วยปกป้องดูแลบ้านเรือน เคหสถาน อาคาร สถานที่ต่าง ๆ รวมทั้งสวนไร่นา ซึ่งมีที่มาของความเชื่อทั้งจากศาสนาพราหมณ์และศาสนาพุทธ ที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน
โดยศาสนาพราหมณ์นั้นมีจุดกำเนิดมาจากโอรส 9 พระองค์ของท้าวทศราช ผู้ปกครองนคร กรุงพาลี กับพระมเหสีพระนางสันทรทุกเทวี แต่ต่อมาได้กระทำสิ่งที่ไม่ดีและเบียดเบียนมนุษย์จนทำให้พระศิวะมีโองการให้พระนารายณ์(พระวิษณุ) อวตารลงมาปราบและเมื่อปราบสำเร็จก็ขับไล่ทุกคนออกไปอยู่นอกเขตป่าหิมพานต์ทำให้ราษฎรอยู่กันอย่างเป็นสุข ด้วยสภาพที่ต้องอยู่อย่างยากลำบากทำให้พระราชา พระมเหสี และพระโอรสทั้ง 9 สำนึกผิดและปวารณาตนว่าจะตั้งอยู่ในศีลธรรมและขอกลับมาอยู่ที่เมืองดังเดิม แต่พระนารายณ์ให้ประทับอยู่บนศาลที่มีเพียง 1 เสาปักลงผืนดินแทน


ส่วนความเชื่อทางศาสนาพุทธ ตำนานความเป็นมาของพระภูมิไนพระชาติหนึ่งของพระพุทธเจ้าเมื่อยังทรงเป็นพระโพธิ์สัตว์ เสด็จออกบวช และประทับบำเพ็ญญาณสมาบัติใต้ต้นไทรใหญ่ จนตกกลางคืนก็ปรากฎภูมิเทวดาทรงพระนามว่า พระเจ้ากรุงพาลี ซึ่งไม่พอใจที่ ที่พระโพธิ์สัตว์มาบำเพ็ญบารมีในถิ่นตนจึงขับไล่ พระโพธิ์สัตว์จึงแสดงอิทธิฤทธิ์กินอาณาบริเวณพื้นที่ของพระเจ้ากรุงพาลีจนหมดสิ้น ทำให้พระเจ้ากรุงพาลีไม่มีที่อาศัยต้องออกไปอยู่นอกเขตมนุษย์ จนทนไม่ไหวจึงให้คนใช้ 3 คน ไปขอแบ่งที่ดินจากพระโพธิ์สัตว์ พระโพธิ์สัตว์ก็ทรงประทานให้และทรงสั่งสอนให้พระเจ้ากรุงพาลีตั้งมั่นในความสุจริตไม่เบียดเบียนผู้อื่น คอยคุ้มครองมนุษย์และสัตว์โลกตลอดไปและหากกระทำการมงคลใด ๆ จะต้องทำพิธีบูชาพระเจ้ากรุงพาลีในฐานะเจ้าของที่ จึงจะประสบความสำเร็จมีความสุขและเจริญรุ่งเรือง
การจะตั้งศาลพระภูมินั้นจะไม่สามารถตั้งเองได้ เนื่องจากเชื่อกันว่าถ้าตั้งศาลพระภูมิไม่ถูกต้อง จะส่งผลให้ผู้อยู่อาศัยนั้นพบเจอแต่สิ่งที่ไม่ดี ไม่สามารถอยู่บ้านหรือที่แห่งนั้นได้อย่างสงบสุขและจะมีเรื่องเดือดร้อนรบกวนใจอยู่เสมอ เช่นเดียวกับการขึ้นบ้านใหม่หรือย้ายบ้าน ซึ่งอาจจะต้องพึ่งพาฤกษ์ดีประจำวันนั้น ๆ ด้วย เช็คฤกษ์ดีของปี 2565 ฉะนั้นการจะตั้งศาลพระภูมิคู่กับบ้านของเราได้จะต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญในการทำพิเศษและอิงตามฤกษ์และเวลาที่เหมาะสม หรือแม้กระทั่งการดูทิศก่อนตั้งศาล
สถานที่ที่เหมาะแก่การตั้งศาล
- ที่ตั้งศาลต้องเป็นบริเวณผืนดิน ห้ามตั้งบริเวณเดียวกับพื้นของตัวบ้าน แต่ถ้าไม่มีพื้นที่ที่เป็นผืนดิน สามารถทำการตั้งศาลบนชั้นดาดฟ้าได้ แต่ส่วนใหญ่ศาลที่ตั้งบนดาดฟ้าจะเป็นศาลเทพต่างๆ เช่นพระพรหม หรือ พระนารายณ์ แต่ไม่ใช่พระภูมิเจ้าที่
- จุดที่ตั้งของศาลต้องไม่ถูกเงาของตัวบ้านทอดลงมาทับ
- ที่ตั้งของศาลควรอยู่ห่างจากบริเวณที่ตั้งของห้องน้ำและอย่าหันหน้าศาลเข้าสู่บริเวณที่ตั้งของห้องน้ำ
- ตั้งศาลให้อยู่ใกล้กับตัวบ้านมากนักโดยตั้งให้ห่างจากรั้วหรือกำแพงบ้านอย่างน้อย 1 เมตรและไม่ควรตั้งศาลให้หันหน้าตรงกับประตูหน้าบ้าน
- ส่วนความสูงของศาลควรอยู่สูงเหนือระดับสายตาของผู้เป็นเจ้าของบ้านขึ้นไปเล็กน้อย


ทิศมงคลในการตั้งศาล
ทิศที่เหมาะมีทั้งหมด 3 ทิศ ได้แก่ ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ทิศตะวันออก และทิศตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งหมดเป็นทิศที่ดีที่สุดหากตั้งศาลหันไปทิศนี้บ้านนั้นจะมีความเจริญรุ่งเรืองตลอดการอยู่ ส่วนทิศต้องห้ามในการตั้งศาลพระภูมิ คือ ทิศตะวันตกและทิศใต้
ขั้นตอนต่อไปคือการพูนดินให้สูง 1 คืบ เกลี่ยดินด้วยมือและทุบให้แน่น ห้าม
ใช้เท้าเด็ดขาด และเตรียมน้ำมนต์ธรณีสารไว้พรมบริเวณพื้นดินเพื่อขับไล่ภูตผีปีศาจและสิ่งชั่วร้ายต่าง ๆ สำหรับวันและฤกษ์มงคลในการตั้งศาลพระภูมิ ซึ่งสามารถทำได้ทั้งข้างขึ้นและข้างแรม ได้แก่ 2 ค่ำ 4 ค่ำ 6 ค่ำ 9 ค่ำ และ 11 ค่ำ
เวลาฤกษ์อันเป็นมงคล
- วันอาทิตย์ เวลา 6.09 น. – 8.19 น.
- วันจันทร์ เวลา 8.19 น. – 10.39 น.
- วันอังคาร เวลา 6.39 น. – 8.09 น.
- วันพุธ เวลา 8.39 น. – 10.19 น.
- วันพฤหัสบดี เวลา 10.49 น. – 11.39 น.
- วันศุกร์ เวลา 6.19 น. – 8.09 น.
- วันเสาร์ เวลา 8.49 น. – 10.49 น.
วันต้องห้ามตั้งศาล
- เดือนอ้าย (ธันวาคม) วันต้องห้ามคือ วันพฤหัสบดี และวันเสาร์
- เดือนยี่ (มกราคม) วันต้องห้ามคือ วันพุธ และวันศุกร์
- เดือน 3 (กุมภาพันธ์) วันต้องห้ามคือ วันอังคาร
- เดือน 4 (มีนาคม) วันต้องห้ามคือ วันจันทร์
- เดือน 5 (เมษายน) วันต้องห้ามคือ วันพฤหัสบดี และวันเสาร์
- เดือน 6 (พฤษภาคม) วันต้องห้ามคือ วันพุธ และวันศุกร์
- เดือน 7 (มิถุนายน) วันต้องห้ามคือ วันอังคาร
- เดือน 8 (กรกฎาคม) วันต้องห้ามคือ วันจันทร์
- เดือน 9 (สิงหาคม) วันต้องห้ามคือ วันพฤหัสบดี และวันเสาร์
- เดือน 10 (กันยายน) วันต้องห้ามคือ วันพุธ และวันศุกร์
- เดือน 11 (ตุลาคม) วันต้องห้ามคือ วันอังคาร
- เดือน 12 (พฤศจิกายน) วันต้องห้ามคือ วันจันทร์
จะเห็นได้ว่าหลายคนอาจคิดว่าวันอาทิตย์เป็นวันที่ดีที่สุดรึเปล่าซึ่งแท้จริงแล้ววันอาทิตย์ก็ถือเป็นวันดีแต่ยังไม่ดีที่สุด เนื่องจากเพราะคนโบราณถือกันว่า แม้จะจะเป็นวันที่มีกำลังแรงดี แต่ก็เป็นวันแรงและร้อน ไม่เหมาะที่จะทำการตั้งศาล เพราะอาจจะทำให้บ้านร้อนไม่มีความร่มเย็นเป็นสุข แต่ก็มีข้อยกเว้นว่าถ้าผู้กระทำพิธีมีเคล็ดหรือมีมนตร์แก้ความร้อนของวันได้ก็สามารถคิดทำการตั้งศาลในวันนี้ได้เช่นกัน
ความสูงของศาล
ตามหลักแล้วเราจะยึดเอาความสูงของศาลจากตัวเจ้าของบ้าน โดยให้ระดับฐาน
หรือชานชาลาพระภูมิอยู่เหนือระดับปาก (บางตำราอาจกล่าวว่าอยู่เหนือคิ้วพอดี) ดังนั้นเมื่อมีการเปลี่ยนเจ้าบ้าน ก็ควรจะตั้งศาลพระภูมิขึ้นใหม่ โดยให้ยึดถือเป็นตัวแทนเพื่อมาทำการยกศาลพระภูมิขึ้นเพื่อบอกกล่าวและสักการะ และขอให้ท่านดูแลปกปักษ์รักษาให้คุณ ให้โชคลาภ ความเจริญรุ่งเรืองแก่ผู้อยู่อาศัยทุกคน
การปักเสาตั้งศาล
ต้องเตรียมหลุมให้เสร็จก่อนเริ่มพิธี ( ค่อยมีพิธีในวันรุ่งขึ้น ) โดยต้องเตรียมของดังนี้ พานครู 1 พาน ใช้สำหรับใส่ข้าว ธูป เทียนขาว ดอกไม้หรือพวงมาลัยสด เหล้า บุหรี่ ผ้าขาว เงิน 6 สลึงหรือ 99 บาท
รายการของมงคลใส่หลุม (ปัจจุบันที่นิยมใช้)
- เหรียญเงิน 9 เหรียญ
- เหรียญทอง 9 เหรียญ อาจจะเป็นเหรียญสลึงหรือ 50 สตางค์ ก็ได้
- ใบเงิน 9 ใบ
- ใบทอง 9 ใบ
- ใบนาค 9 ใบ
- ใบรัก 9 ใบ
- ใบมะยม 9 ใบ
- ใบนางกวัก 9 ใบ
- ใบนางคุ้ม 9 ใบ
- ใบกาหลง 9 ใบ
- ดอกบานไม่รู้โรย 9 ดอก
- ดอกพุทธรักษา 9 ดอก
- ไม้มงคล 9 ชนิด
- แผ่น เงิน,ทอง,นาค 1 ชุด
- พลอยนพเก้า 1 ชุด
ผู้ประกอบพิธีกรรมการตั้งศาลพระภูมิ
ควรจะเป็นผู้ที่ปฏิบัติธรรมมีศีลธรรม ทำบุญทำทานประจำ มีความซื่อสัตย์สุจริต ยุติธรรม จะทำให้การตั้งศาลพระภูมิบังเกิดผลดี มีความเจริญรุ่งเรืองแก่เจ้าของบ้าน หรือเจ้าบ้านจะเป็นผู้กระทำพิธีกรรมก็ได้ โดยศึกษาขั้นตอนพิธีกรรมต่างๆ และให้ถือศีลกินเจ 7 วัน ( 3,5,7 วันก็ได้ หรือมากกว่านี้ก็ได้ )


ส่วนประกอบสำคัญของศาลพระภูมิ นั่นก็
คือจะเหว็ดศาลพระภูมิ ซึ่งจะเป็นรูปพระภูมิอยู่ในแผ่นคล้ายแผ่นเสมา มือขวาถือพระขรรค์ มือซ้ายถือถุงเงินหรือสมุด(หนังสือ) และเราจะต้องทำการปลุกเสกจะเหว็ดให้เป็นองค์พระภูมิโดยทำได้โดยการบรรจุธาตุทั้ง 6 คือ บรรจุพระพุทธคุณ บรรจุพระธรรมคุณ บรรจุพระสังฆคุณ ตลอดเทวคุณและวิญญาณธาตุเข้าไปในจะเหว็ดและเมื่ออปลุกเสกแล้วก็จะเรียกว่า “พระภูมิ” ซึ่งบริวารของพระภูมิ ได้แก่
- ตุ๊กตาชาย-หญิง อย่างละ 1 คู่
- ตุ๊กตาช้าง-ม้า อย่างละ 1 คู่
- ละครยก 2 โรง
เครื่องประดับตกแต่งศาลพระภูมิ จะประกอบด้วย
- แจกัน 1 คู่
- เชิงเทียน 1 คู่
- กระถางธูป 1 ใบ
- ผ้าผูกจะเหว็ด 1 ผืน
- ผ้าพันศาล 1 ชุด (ผ้าแพร 3 สี คือ สีเขียว,สีเหลืองและสีแดง)
- ฉัตรเงิน-ทอง 2 คู่
- ด้ายสายสิญจน์ 1 ม้วน
- ผ้าขาว 1 ผืน
- ทองคำเปลว
- แป้งเจิม 1 ถ้วย
- ดอกบัว 9 ดอก
12.ดอกไม้ 7 สี หรือมาลัย 7 สี
เครื่องสังเวยสำหรับตั้งศาล ประกอบด้วยอาหารคาวและหวานดังนี้
- หัวหมู 1 หัว
- ไก่ต้ม 1 ตัว
- เป็ด 1 ตัว
- ปลานึ่ง 1 ตัว
- ปู หรือ กุ้ง 1 จาน
- บายศรีปากชามยอดไข่ 1 คู่
- น้ำจิ้ม 2 ถ้วย
- ข้าวสวย 2 ถ้วย
- เหล้า 1 ขวด
- น้ำชา 2 ถ้วย
- น้ำสะอาด 2 แก้ว
- มะพร้าวอ่อน 1 คู่
- ขนมต้มแดง 2 จาน
- ขนมต้มขาว 2 จาน
- ขนมถั่วงา 2 จาน
- ขนมถ้วยฟู 2 จาน
- ขนมหูช้าง 2 จาน
- เผือก-มันต้ม 2 จาน
- ฟักทอง 2 ผล
- แตงไทย 2 ผล
- 21.ขนุน 2 จาน
- สับปะรด 2 ผล
- กล้วย 2 หวี
- ผลไม้ 5 ชนิด 2 จาน
- พานหมาก พลู บุหรี่ 1 คู่
ทั้งนี้หากถ้าขนาดบ้านและศาลพระภูมิเล็ก ก็สามารถใช้สับปะรดเพียง 1 ผลได้แต่จัดแบ่งเป็น 2 จานได้เช่นกัน
เครื่องสังเวยสำหรับตั้งศาลในรูปแบบมังสวิรัติ ประกอบด้วยอาหารคาวและหวานดังนี้
- มะพร้าวอ่อน 1 คู่
- ถั่วคั่ว 2 จาน
- งาคั่ว 2 จาน
- เผือก-มันต้ม 2 จาน
- ขนมต้มแดง 2 จาน
- ขนมต้มขาว 2 จาน
- ขนมถั่วงา 2 จาน
- ขนมถ้วยฟู 2 จาน
- ฟักทอง 2 ผล
- แตงไทย 2 ผล
- ขนุน 2 จาน
- สับปะรด 2 ผล
- สับปะรด 2 ผล
- ผลไม้ 5 ชนิด 2 จาน
- พานหมาก พลู บุหรี่ 1 คู่
- น้ำสะอาด 2 แก้ว
- ข้าวสวย 2 ถ้วย
- น้ำชา 2 ถ้วย
- นม 2 ถ้วย
- เนย 2 ถ้วย
ผลไม้ที่ห้ามนำถวาย ซึ่งผลไม้เหล่านี้เป็นผลไม้ที่คนไทยโบราณเชื่อว่าเป็นผลไม้อัปมงคล
- มังคุด
- ละมุด
- ระกำ
- มะเฟือง
- มะไฟ
- น้อยโหน่ง
- น้อยหน่า
- กระท้อน
- ลูกท้อ
- ลูกจาก
- ลูกพลับ
- มะขวิด
- มะตูม
- พุทรา
- ลางสาด
แน่นอนว่าการที่เราคำนึงถึงหลักความเชื่อต่าง ๆ เหล่านี้นอกจากจะทำให้ผู้อยู่อาศัยเองมีความสบายใจและส่งเสริมให้ผู้อยู่มีความเจริญก้าวหน้าแล้วยังถือเป็นการสืบถอดหลักความเชื่อและวัฒนธรรมของพวกเราให้คงอยู่ต่อไปอีกด้วย ซึ่งนอนกจากความเชื่อเรื่องศาลพระภูมิแล้ว การจัดตั้งหิ้งพระเพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล รวมไปถึงการสร้างและจัดแต่งบ้านตามหลักฮวงจุ้ยก็สำคัญไม่แพ้กัน
ทั้งนี้หากใครมีข้อเสนอแนะ ข้อแนะนำหรือความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องศาลพระภูมิก็สามารถร่วมแชร์กับพวกเราได้ผ่านช่องคอมเมนต์ด้านล่างได้เลยนะคะ
ขอขอคุณข้อมูลจาก www.nanitalk.com
คิดเห็นอย่างไรบอกเราได้ที่นี่
บทความน่าสนใจเพิ่มเติม


ดอกเบี้ยบ้าน 66 ธนาคารไหนถูกและดี เช็คเลย!
ว่าด้วยเรื่องดอกเบี้ยบ้านปี 2566 เรามาอัพเดทกันดีกว่า ว่าแต่ละธนาคารจะมีโปรอะไร เพื่อดึงดูดใจกลุ่มลูกค้าที่อยากขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยกันบ้าง 👇🏻👇🏻สามารถเช็คได้ที่นี่เลย 👇🏻👇🏻 1.ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (G H Bank) อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยต่ำสุดอยู่ที่ 1.99% ผ่อนชำระนานสูงสุด 40 ปี และให้วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 2,000,000 บาทต่อหลักประกัน (สำหรับผู้ยื่นกู้ภายในวันที่ 20 ธันวาคม 2565 – 31 มกราคม


ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ปี2566 ที่ทุกคนต้องรู้ !
ภาษีที่ดิน และ สิ่งปลูกสร้าง ได้ถูกร่างขึ้นมาเพื่อใช้แทน พรบ.ภาษีที่ดินและโรงเรือน และภาษีบำรุงท้องที่ เพื่อแก้ปัญหาเรื่องการเก็บภาษีซ้ำซ้อน การลดหย่อนภาษีที่มากไปจนทำให้รายได้จากการเก็บภาษีของประเทศลดลงไป ทั้งยังช่วยกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาที่ดินรกร้างว่างเปล่าให้เกิดประโยชน์ โดยผู้ที่จะต้องทำหน้าที่เสียภาษีก็คือ เจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง เจ้าของห้องชุดคอนโด และผู้ที่ครอบครองทรัพย์สินของรัฐ ซึ่งหน่วยงานที่จัดเก็บภาษีก็คือ เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล กรุงเทพมหานคร และเมืองพัทยา และส่งต่อไปยังองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เพื่อจัดเก็บและนำมาพัฒนาประเทศต่อไป วันนี้ เชียงใหม่บ้าน จึงสรุปอัตราการเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง สำหรับในปี 2566


ฤกษ์ดีขึ้นบ้านใหม่ ย้ายบ้าน ประจำปี 2566 ฤกษ์ดี วันมงคล ช่วยเสริมมั่งคั่งร่ำรวย
สำหรับคนที่กำลังมองหา ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ 2566 อยากรู้ว่าฤกษ์ดีแต่ละเดือนมีวันไหนบ้าง สำหรับใช้ในการเตรียมตัวขึ้นบ้านใหม่ ทำบุญบ้านใหม่ ย้ายเข้าบ้านใหม่ สร้างบ้าน ลงเสาเอก รวมถึงคนที่กำลังจะเปิดร้านใหม่ ตามไปดูฤกษ์ดี วันมงคล และวันต้องห้าม กับเชียงใหม่บ้าน พร้อม ๆ กันเลย วันพุธที่ 4 มกราคม 2566 วันพุธที่ 4 มกราคม 2566 ตรงกับขึ้น 13 ค่ำ เดือน


เช่าคอนโดในเชียงใหม่ จะเริ่มต้นยังไงดี? คำถามที่ถูกถามบ่อย
หลายๆคนตอนนี้ อยากจะหาเช่าคอนโด แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง จะหาคำแนะนำจากไหน ดูเหมือนจะเป็นเรื่องยากใช่ไหม? วันนี้ทาง เพอร์เฟคโฮมส์ ได้รวบรวมคำถาม และตอบคำถามไขข้อข้องใจเบื้องต้นให้ทุกคนได้ทราบกัน เริ่มจากคำถามที่ว่า.. ใช้เวลานานแค่ไหนในการหาคอนโดให้เช่าในเชียงใหม่? การตามคอนโดที่เหมาะสมสำหรับให้เช่าในเชียงใหม่ จริงๆ แล้วนั้นสามารถใช้เวลานานได้ตามที่คุณต้องการ ด้วยจำนวนคอนโดที่มีมากถึงหมื่นยูนิตทั่วเชียงใหม่ ซึ่งคุณสามารถไปเลือกชมได้ ถ้าใช้เวลาอย่างเต็มที่ภายในไม่กี่ชั่วโมงคุณก็สามารถหาคอนโดได้ หรือจะให้ดีไปกว่านั้น เราอยากจะแนะนำว่าไม่ต้องเร่งรีบ ค่อยๆหา โดยคุณอาจจะหาที่พักชั่วคราวไปก่อน พักไม่กี่วันหรือประมาณหนึ่งสัปดาห์ เพื่อป้องกันความเหนื่อยล้าจากการหาคอนโด และเมื่อใดที่คุณเจอคอนโดที่เหมาะสมกับคุณแล้ว อย่ารอช้าที่จะวางเงินมัดจำเพื่อจองห้องพักที่คอนโดนั้นๆ


ฮิลล์ทาเนีย คอนโดมิเนียม ความหรูหราสะดวกสบายไร้ขีดจำกัด
จากธุรกิจครอบครัว สู่การสรรค์สร้างที่พักอาศัยสุดหรูหราที่เริ่มโครงการเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว จึงได้ก่อกำเนิดเป็นคอนโดที่พักอาศัยสุดทันสมัย ด้วยการออกแบบจากการร่วมทุนของนักสถาปัตยกรรมชั้นนำของประเทศไทย จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า ฮิลล์ทาเนีย คอนโดมิเนียม (Hilltania Condominium) จะกลายเป็นคอนโดสุดหรูที่สวยงดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่


THE NIMMAN by Palm Springs สวรรค์บนดินท่ามกลางทำเลทอง
หากจะพูดถึงที่พักอาศัยที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ทำเลทองแล้ว เชื่อว่าหลายๆ คนจะต้องนึกถึงทำเลดีๆ อย่างถนนนิมมานเหมินทร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในทำเลที่ดีที่สุดในจังหวัดเชียงใหม่ และคงจะดีไม่น้อยหากได้พักอาศัยอยู่ในย่านนี้ ซึ่งมีครบทุกอย่าง